บล.เอเซียพลัส เผยเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยตามคาด แต่ตลาดรับข่าวไปแล้ว

บล.เอเซียพลัส ชี้ ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยตามคาด แต่ตลาดรับข่าวไปแล้ว ขณะที่ดอกเบี้ยนโยบายของไทยยังต่ำนานเป็นปีที่ 0.5% หนุนดัชนีหุ้นไทยปี 65 มีอัพไซด์ที่ 1,840 จุด

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) วานนี้มีประเด็นสำคัญ คือ

1. ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0-0.25% สอดคล้องกับที่ตลาดคาดไว้

2. มีมุมมองต่อเศรษฐกิจสหรัฐที่ดีขึ้น: สะท้อนจาก Fed ปรับเพิ่มประมาณการ GDP สหรัฐปี 2565 ขึ้นเป็น 4%yoy จาก 3.8%yoy, อัตราการว่างงานปี 2564-2565 ปรับลงเหลือ 4.3% และ 3.5% จาก 4.8% และ 3.8% ตามลำดับ และอัตราเงินเฟ้อปรับเพิ่มเป็น 5.3%, 2.6%, 2.3% จาก 4.2%, 2.2%, 2.2% ในปี 2564-2566 ตามลำดับ

3. Fed ส่งสัญญาณดำเนินนโยบายการเงินที่โน้มเอียงไปทางด้านตึงตัวมากขึ้น

3.1. การปรับลดวงเงิน QE (QE Tapering): ประกาศแผน QE Tapering ใหม่ ซึ่งเร็วขึ้นกว่าเดิม โดยในเดือนม.ค. 2565 จะเร่งทำ QE Tapering เพิ่มเป็นเดือนละ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ จากเดิมเดือนละ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่งผลให้มาตรการ QE จะสิ้นสุดเดือนมี.ค.2565 (กราฟเส้นสีส้ม) จากเดิมสิ้นสุดในเดือนมิ.ย. 2564 (กราฟเส้นสีเขียว) สอดคล้องกับที่ตลาดและ ASPS เคยนำเสนอไปเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา

3.2. Fed ส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเร็วขึ้น: สะท้อนจาก (Dot plot) พบว่า Fed ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2565 จำนวน 3 ครั้ง ส่วนปี 2566-2567 ปีละ 2 ครั้ง ซึ่งแตกต่างจาก Dot plot เมื่อเดือนก.ย.2564 ที่ส่งสัญญาณว่าปี 2565 จะขึ้นเพียง 1 ครั้ง

โดยสรุป แม้ Fed จะส่งสัญญาณนโยบายไปทางด้านตึงตัวมากขึ้น แต่กลับพบว่าตลาดการเงินโลกไม่ต้องตอบสนองมากนัก สะท้อนจากตลาดซื้อหวยออนไลน์ถูกกฎหมายมั่นใจได้หุ้นสหรัฐ สามารถพลิกกลับมาบวกได้ภายหลังการประชุม Fed เสร็จสิ้น, ตลาดหุ้นยุโรปเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียแกว่งทรงตัว, Dollar Index พักตัวหลังทดสอบแนวต้าน 97 จุด ขณะที่ Bond Yield สหรัฐปรับขึ้น

สาเหตุที่ตลาดไม่ได้ตอบสนองเชิงลบมากนัก คาดว่าเกิดจากตลาดได้ตอบรับ (Price in) ประเด็น Fed ไปในระดับหนึ่งในช่วงที่ผ่านมาแล้ว สังเกตได้จากผลสำรวจของ Bloomberg ที่พบว่า ตลาดการเงินคาด Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2565 (ดูเพิ่มในบทวิเคราะห์ Invest+ ฉบับเดือนธ.ค. 2564) ประเมินจากการตอบสนองในเชิงลบที่จำกัดของตลาดหุ้นและตลาดการเงินโลก เชื่อว่าจะช่วยให้ตลาดหุ้นไทยในวันนี้มีโอกาสตอบสนองในเชิงลบอย่างจำกัดตามไปด้วย โดยประเด็น Fed ที่ต้องติดตามหลังจากนี้ คาดจะเป็นการเผยแพร่รายงานการประชุม Fed ของเดือนธ.ค. 2564 ที่จะเผยแพร่ในช่วงต้นเดือน ม.ค.2565

แม้ดอกเบี้ยโลกจะเป็นขาขึ้น แต่อัตราดอกเบี้ยไทยคาดยังทรงตัวต่ำ 0.5% ต่อไปอีกระยะ บวกต่อ SET Index

แม้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยโลก และสหรัฐจะเป็นขาขึ้น หลังการประชุม Fed เมื่อวานนี้ ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยยาวติดต่อกันในปี 2565-2567 (ดังกล่าวข้างต้น) ส่วนไทยการประชุม กนง. สัปดาห์หน้าวันพุธที่ 22 ธ.ค.64 ASPS คาดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยต่ำที่ 0.5% และประเมินดอกเบี้ยไทยจะทรงตัวต่ำที่ 0.5% ต่อไปตลอดในปี 2565 คาดการขึ้นไทยจะช้ากว่าสหรัฐ เนื่องจากสภาพแวดล้อมไทยแตกต่างจากสหรัฐ (สหรัฐเงินเฟ้อ ล่าสุดขึ้นแรงสูงสุดในรอบ 40 ปี , อัตราว่างงาน ปัจจุบันต่ำเท่ากับก่อนเกิด Covid) ส่วนไทย หากประเมิน
1. เศรษฐกิจยังฟื้นตัวไม่กลับ ไปถึงก่อนเกิด Covid สะท้อนจาก Real GDP งวด 3Q64 ยังต่ำกว่าก่อนเกิด Covid ในปี 2562 และภาคท่องเที่ยว ราว 20% ของ GDP ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่เนื่องจาก Covid รอบใหม่

2. เงินเฟ้อยังทรงตัวต่ำคือ Inflation เดือนพ.ย.2564 ขยายตัว 2.7%yoy ส่วน Core Inflation ยังทรงตัวต่ำมาก 0.29% เชื่อว่ายังไม่เห็นแรงกดดัน

3. รัฐบาลยังเดินหน้าออกมาตรการคลังกระตุ้นเศรษฐกิจ แสดงถึงยังมีความจำเป็นต้องมีมาตรการเพื่อพยุงเศรษฐกิจ ล่าสุด ประชุม ครม. ในวันอังคาร 21 ธ.ค.64 เพื่อออกมาตรการกระตุ้นการบริโภคครัวเรือน เป็นของขวัญปีใหม่ 2022 อาทิ มาตรการ ‘ช้อปดีมีคืน’ (นำใบเสร็จค่าใช้จ่ายสินค้าและบริการมาหักลดหย่อนภาษี)

โดยรวมสรุปทั้งหมดเชื่อว่าไทยยังอยู่กับภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำไปอีกเป็นปี ทำให้ Market Earning Yield Gap (ส่วนต่างผลตอบแทนตลาดหุ้นกับพันธบัตร 1 ปี) อยู่ระดับกว้างแบบนี้ต่อไป โดยปัจจุบันอยู่ที่ 4% (ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยในอดีต) หากคิดกลับเป็นดัชนีเป้าหมายของปีหน้า คาด EPS65F ที่ระดับ 81 บาท/หุ้น (เติบโต 10%YoY) เมื่อคูณกับ P/E ตามกลไก Market Earning Yield Gap เฉลี่ย 3.9% ที่ 22.73 เท่า จะได้เป้าหมายดัชนี 1,840 จุด แสดงให้เห็นว่าตลาดหุ้นไทยยังมี Upside ให้ลงทุน

อีกทางที่สนับสนุนความเชื่อว่า Downside ของดอกเบี้ยเป็น Bottom ไปแล้วบวกต่อหุ้นที่ได้ประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยทรงตัวหรือขึ้น อาทิ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ Top pick กลุ่ม แนะนำ SCB, KBANK กลุ่มประกันชีวิต แนะนำ BLA

You may also like...